วอดก้า จิน รัม เตกีล่า แตกต่างกันอย่างไร?

คาร์แรคเตอร์เฉพาะตัวที่ต่างกันออกไปของเหล้าใสไร้สี

เมื่อเอ่ยถึงการปาร์ตี้สังสรรค์ การเฉลิมฉลองต่าง ๆ สิ่งที่มักอยู่คู่กันกับทุกงานอยู่เสมอนั่นก็คือ เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ อันเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมมาตั้งแต่สมัยอดีต มาจนถึงในยุคปัจจุบัน หลาย ๆ ท่านอาจจะคุ้นเคยกับคำว่า “สุรา” จนอาจคิดว่าสามารถแยกสุราด้วยตาเปล่าได้ แต่ความเป็นจริงแล้ว สุรามีหลากหลายประเภทมาก และแต่ละชนิดก็มีคาร์แรคเตอร์เฉพาะตัวที่ต่างกันออกไป ทั้งสี กลิ่น รสชาติ ตามกรรมวิธีการผลิต

ถึงแม้สุราอาจมีสีเหมือนกันก็ตาม แต่ก็มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงอยู่ดี โดยสุราสามารถจำแนกประเภทได้หลัก ๆ ออกเป็น 2 ประเภท คือ สุราที่ได้จากการกลั่น (Distillation Spirits) และสุราที่ได้จากการหมัก (Fermentation) โดยในวันนี้เราจะมาพูดถึงสุรา 4 แบบ ได้แก่ วอดก้า, จิน, รัม และเตกีล่า ซึ่งทั้งหมดเป็นสุราใสไร้สีเหมือนกัน ไปทำความรู้จักกันว่าในความเหมือนนี้ มีความแตกต่างที่ไม่เหมือนกันตรงไหนบ้าง

วอดก้า จิน รัม เตกีล่า แตกต่างกันอย่างไร?

วอดก้า, จิน, รัม และเตกีล่า อยู่ในประเภทเดียวกัน คือ Distillation Spirits เป็นประเภทของสุราที่เกิดจากการกลั่น เกิดจากการนำสุราที่ได้จากการหมักน้ำตาลของผลไม้ ที่เปลี่ยนเป็นแอลกอฮอล์ นำมากลั่นต่อเพื่อให้ได้ปริมาณดีกรีแอลกอฮอล์ที่สูงขึ้น มีความแรงของแอลกอฮอล์ค่อนข้างสูงกว่า 18% ขึ้นไป บางตัวอาจสูงไปถึง 75% โดยสุราในรูปแบบ Spirits นี้นิยมดื่มได้ทุกโอกาสเพื่อการสังสรรค์

1 วอดก้า (VODKA)

วอดก้ามีสีขาวใส มีกลิ่นเพียงเล็กน้อยจนแทบไม่รู้สึก กลั่นจากส่วนผสมของข้าว อ้อย หรือมันฝรั่ง ขึ้นอยู่กับเอกลักษณ์และวัตถุของประเทศผู้ผลิต ผ่านการกรองและดูดกลิ่นอย่างน้อย 3 ครั้ง หรือมากกว่า จนเหลือสีเจือปนและกลิ่นน้อยที่สุด เพื่อให้ได้วอดก้าที่บริสุทธิ์ มีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 35% – 95% ดื่มแล้วไม่มีกลิ่นติดค้างในคอ ผู้ริเริ่มที่ทำวอดก้าให้ปราศจากกลิ่นได้คือ ตระกูล Smirnoff แบรนด์เครื่องดื่มวอดก้าชั้นนำของโลก ที่เรารู้จักกันดีในปัจจุบันนั่นเอง นิยมดื่มแบบเย็น

2 จิน (GIN)

จิน หรือ ยิน เป็นสุราสีขาวใสบริสุทธิ์ มีกลิ่นหอมจากรากไม้และสมุนไพร กลั่นจากข้าวบาร์เลย์ และข้าวต่าง ๆ มาบดให้เข้ากันแล้วนำไปต้ม หมัก เมื่อหมักได้ปริมาณแอลกอฮอล์ตามต้องการแล้วก็ทำการกลั่นครั้งแรก แล้วกลั่นซ้ำอีกครั้งโดยเติมผลจูนิเปอร์ (Juniper Berry) ลงไปเล็กน้อย ทำให้จินมีความแตกต่างจากสุราทั่วไป ที่มีความลงตัวระหว่างความดราย (Dry) หรือไม่หวาน กลิ่นสดชื่นของผลจูนิเปอร์ รวมไปถึงสมุนไพรและเครื่องเทศต่าง ๆ มีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 37.5% – 50%  นิยมดื่มแบบผสมเป็นค็อกเทลต่าง ๆ เช่น Gin Tonic, Martini เป็นต้น

3 รัม (RUM)

รัมเป็นสุราที่กลั่นมาจากอ้อยและกากน้ำตาลคุณภาพดี หรือ Molasses มีกรรมวิธีการผลิตอยู่ 3 ขั้นตอน คือ การหมัก (Fermentation), การกลั่น (Distillation) และการบ่ม (Maturation) โดยประเภทของ “รัม” แบ่งออกได้ตามระยะเวลา แยกตามความนิยมเป็น 4  ชนิดด้วยกัน

• White Rum – จะมีรสชาติไม่แรง มีรสหวาน และนิยมนำไปทำ Cocktail
• Gold Rum – เป็นรัมสีทองอำพัน ซึ่งมักจะผ่านการบ่มในถังไม้โอ๊ก
• Spiced Rum – รัมประเภทนี้ได้รสชาติจากการเติมเครื่องเทศหรือสมุนไพร และมักเติมคาราเมลเพื่อให้ได้สีทอง
• Dark Rum – เป็นกลุ่มที่มีสีของน้ำสุราเข้ม และมักจะผ่านการบ่มในถังไม้โอ๊กนานกว่า Gold Rum เพื่อให้เกิดสีและได้กลิ่นและรสชาติแรงยิ่งขึ้น

หลังจากผ่านกรรมวิธีการหมัก (Fermentation) โดยใช้ยีสต์ (Yeast) จะเข้าสู่กระบวนการการกลั่น (Distillation) ซึ่งหากหยุดการผลิต ณ จุดนี้จะทำให้ได้ White Rum หรือรัมแบบใสไร้สี มีกลิ่นหอม นุ่ม และมีรสชาติต่างจากสุราใสไร้สีอื่น ๆ ปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 35-40% บางยี่ห้ออาจมีดีกรีสูงมากถึง 75.50% นิยมนำไปทำค็อกเทล เช่น Rum Coke, Cuba Libre หรือนำไปผสมกับเครื่องดื่มชนิดอื่น ๆ เช่น น้ำผลไม้ต่าง ๆ

4 เตกีล่า (TEQUILA)

มีสีขาว และกลิ่นแรง ที่ผลิตในประเทศแม็กซิโก (Mexico) กลั่นมาจากต้นกระบองเพชรพันธุ์อกาเว่ (Agave) โดยจะเลือกเฉพาะพันธุ์สีฟ้า หรือที่เรียกกันว่า “บลู อากาเว” (Blue Agave) เท่านั้น และต้องใช้อากาเว ที่มีอายุ 8-12 ปี ขึ้นไป ถึงจะนำมาใช้ผลิตเตกิล่าได้ มีรสชาติร้อนแรง บาดคอ ปริมาณแอลกอฮอล์ 32% – 60% มักนิยมใส่แก้ว Shot ก้นหนา ๆ เพื่อนำไปกระแทกกับโต๊ะพื้นไม้ให้มีเสียงดัง ๆ ก่อนดื่ม และหยิบเกลือใส่ปาก บีบมะนาวตาม จากนั้นก็จะยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมดแก้ว เพื่อให้รสชาติคลุกเคล้ากับเกลือ และมะนาวในปาก หรือนำไปทำเป็นค็อกเทล เช่น Tequila Sunrise, Margarita ,Matador เป็นต้น

เห็นได้ว่าสุราใสไร้สีแต่ละแบบก็มีเอกลักษณ์ คาร์แรคเตอร์ และวิธีการดื่มที่แตกต่างกันออกไป หากท่านไม่ทราบว่าสุราแบบไหน เหมาะกับการผสมกับเครื่องดื่มอื่นอย่างไรให้กลมกล่อม อาจจะปรึกษากับ Mixologist (ผู้เชี่ยวชาญด้านค็อกเทล) คอยแนะนำเครื่องดื่มสุดพิเศษมากมาย ที่รวบรวมไว้รอทุกท่านมาร่วมสังสรรค์อยู่ในทุกเทศกาล